แกะสลักไม้สัก

ศิลปะการแกะสลักไม้
เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติที่ตกทอดสืบต่อเรื่อยมาจนปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถทรงมีพระราชประสงค์จะอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมชิ้นนี้ให้ทรงคุณค่าจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้หาครูมาสอนวิชานี้แก่สมาชิกศิลปาชีพ โดยทรงเน้นให้ใช้ไม้อย่างคุ้มค่าและและเหมาะที่สุด
การแกะสลักเป็นอาชีพที่มีอยู่ทั่วไปโดยเฉพาะทางภาคเหนือ
เพราะเป็นแหล่งที่หาวัตถุดิบได้ง่าย
การแกะสลักแต่ละจังหวัดจะมีลักษณะแตกต่างกันตามปกติการแกะสลักลวดลายในที่ประดับต่าง
ๆ นั้น ไทยเรามีตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว เช่น
การแกะสลักเพื่อประดับตามบ้านหรือวัดวาอาราม เป็นต้น
วัสดุที่ใช้ในการแกะสลัก
ไม้คือวัสดุที่ใช้มากที่สุดไม้ที่ใช้ในการแกะสลักมีอยู่หลายชนิด
แต่ละชนิดให้ลักษณะที่แตกต่างกันออกไปตามสีสันและลวดลายของไม้
ไม้สัก
เป็นไม้ที่นิยมใช้ในการแกะสลักมากที่สุดเพราะมีผิวละเอียดและลายไม้สวย
ไม้ชิงชัน เป็นไม้ที่นิยมมากเช่นเดียวกัน
ไม้โมกมัน
เป็นไม้ที่นิยมกันพอสมควรเพราะราคาถูกและลวดลายไม้สวยงาม ไม้ฉำฉา
เป็นไม้ที่นิยมกันพอสมควรเพราะราคาถูกที่สุด ผลิตง่ายเพราะเป็นไม้เนื้ออ่อน
แม้ว่าลวดลายจะไม่สวยเท่าไม้อื่น ๆ นอกจากนี้ สมหวัง คงประยูร
กล่าวถึงลักษณะการแกะสลักไม้ไว้ความว่า
ประเภทของการแกะสลักมี 3 ประเภทคือ 1. ภาพประเภทนูนต่ำ 2. ภาพประเภทนูนสูง 3. ภาพประเภทลอยตัว
การแกะสลักไม้มีอยู่สองลักษณะ อย่างหนึ่งคือแกะเป็นภาพนูนบนเนื้อไม้ เช่น หน้าบ้าน
บานประตู หน้าต่างโบสถ์วิหารของวัด อีกลักษณะหนึ่งคือการแกะลอยตัวเช่น พระพุทธรูป
ตัวละคร สัตว์ต่าง ๆ เป็นต้น นิยมใช้ไม้สักเป็นวัสดุในการแกะสลัก
เพราะมีความอ่อนและเหนียวพอสมควร สามารถแกะสลักได้ลายคมชัดตามต้องการ
มีลวดลายสวยงามในเนื้อและมีคุณสมบัติในการดูดซับสีหรือรักเป็นอย่างดี (สมหวัง
คงประยูร, ม.ป.พ. : 40)

เครื่องมือที่ใช้ในการแกะประกอบด้วยสิ่วหน้าต่าง
ๆ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่
ซึ่งมักจะทำขึ้นเองเพื่อให้ใช้ได้ถนัดมือช่างผู้ทำงานและเหมาะกับงานประเภทใดประเภทหนึ่ง
สิ่วแต่ละขนาดใช้ในลักษณะต่าง ๆ กัน เช่น
ใช้ตอกลงในเนื้อไม้เพื่อเติมเส้นลายและขุดพื้นให้ลึกลง ใช้เจียนปาดตัดลายตั้งเหลี่ยมเป็นชั้นเชิงเพื่อคัดตัวลายให้เด่นชัดขึ้น
การแกะครั้งแรกเรียกว่าโกลน
เป็นสิ่งสำคัญมากต้องโกลนให้ดีก่อนจึงจะแกะลายแกะรูปต่อได้สัดส่วนถูกต้องสวยงาม
เมื่อเสร็จขั้นตอนการแกะแล้ว จึงจะลงรักปิดทองหรือลงสี ลงน้ำมันตามต้องการ
ประเภทการแกะสลักไม้
1.การแกะสลักภาพลายเส้น
เป็นการเซาะร่องตามลวดลายของเส้นให้มีความหนักเบาเท่ากันตลอดทั้งแผ่น
1.การแกะสลักภาพนูนต่ำ
เป็นการแกะสลักภาพให้นูนขึ้นสูงจากพื้นแผ่นของไม้เพียงเล็กน้อยไม่แบนราบเหมือนภาพลายเส้น
2.การแกะสลักภาพนูนสูง
เป็นการแกะสลักภาพให้ลอยสูงขึ้นมาเกือบสมบูรณ์เต็มตัว
ความละเอียดของภาพมีมากกว่าภาพนูนต่ำ
3.การแกะสลักภาพลอยตัว
เป็นการแกะสลักไม้ให้มีลักษณะเป็น 3 มิติ มองเห็นได้รอบด้าน
การแกะสลักลาย
หลังจากออกลวดลายได้ตามต้องการแล้วลอกลายลงบนพื้นไม้
ใช้เลื่อยเลื่อยไม้ส่วนที่ไม่ต้องการออกเสียก่อน เป็นการขึ้นรูปหรือโครงลาย
แต่ถ้าเป็นการแกะสลักไม้ทั้งแผ่นก็เริ่มงานที่การสกัดลวดลาย
หรือกรุลายให้รู้ว่าส่วนใดเป็นพื้น ส่วนใดเป็นตัวลาย
โดยใช้สิ่วขนาดใหญ่สกัดรอยเป็นการคัดตัวลาย
เมื่อคัดตัวลายเสร็จเรียบร้อยทั้งแผ่นจึงมาถึงการขุดพื้น ขั้นแรกจะขุดเพียงพื้น ๆ
ก่อน แล้วตรวจดูความถูกต้อง จึงลงมือขุดต่อไปให้เป็นพื้นลึกตามที่ต้องการ
พอขุดพื้นได้ที่ก็ลงมือแกะตัวลายหรือโกลนลาย
ด้วยการใช้สิ่วฉาก หลังจากโกลนลายเสร็จ
จึงทำการเก็บรายละเอียดของลายให้มีความอ่อนช้อย ซับซ้อน ด้วยสิ่วเล็บมือ
และสิ่วขมวด จนได้งานแกะสลักที่พึงพอใจ จึงลงมือขั้นตกแต่ง ขัดกระดาษทราย
ทาดินสอพอง ทาน้ำมันเคลือบเนื้อไม้
หรือทาน้ำมันชักเงาตามชนิดของงานเป็นขั้นสุดท้าย
งานแกะสลักไม้ที่ดีจะไม่มีการขัดถู
กระดาษทรายบนตัวลวดลายเหล่านั้นเลยสามารถลงรักปิดทอง
หรือทาน้ำมันเคลือบไม้ชักเงาได้ทันที
ขั้นตอนและวิธีการแกะสลักไม้
1. ออกแบบลวดลายของชิ้นงาน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญ สำหรับงานแกะสลักไม้ และต้องรู้จักลักษณะของไม้ที่จะนำมาแกะสลัก เช่นรู้ทางไม้ หรือเสี้ยนไม้ สิ่งเหล่านี้สำคัญที่ช่างแกะสลักจะต้องศึกษาหาความรู้
2. คัดลอกแบบลงพื้นไม้ สำหรับงานที่เป็นรูปเหมือน เพื่อให้ได้แบบ สัดส่วน ขนาดเท่าของของจริง สำหรับช่างที่มีความชำนาญจะนิยมวาดภาพโดยคร่าว ๆ ลงบนไม้ โดยจะมองภาพรวม ๆ
3. การขึ้นรูป เป็นการแกะเอาเนื้อไม้ส่วนที่ไม่ต้องการออกให้ไม้นั้นมีลักษณะรูปร่างใกล้เคียงกับแบบ เพื่อให้เกิดรูปทรงตามต้องการ และดูชิ้นงานจะมีรูปร่างชัดเจนมากขึ้น
4. แกะสลักลวดลายโดยละเอียด จะใช้สิ่วที่มีความคมเป็นเครื่องมือในการแกะสลัก ขั้นตอนนี้จะอาศัยความชำนาญในการแกะสลักลวดลาย ของช่างแต่ละคน ซึ่งจะต้องใช้มือและค้อนไม้ในการตอกการแกะ มีวิธีการแกะสลักที่แปลกออกไปตามความถนัดของแต่ละคนแล้วแต่กรณีไป เพื่อเก็บลายละเอียดให้มากที่สุด
ขั้นตอนและวิธีการแกะสลักไม้
1. ออกแบบลวดลายของชิ้นงาน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญ สำหรับงานแกะสลักไม้ และต้องรู้จักลักษณะของไม้ที่จะนำมาแกะสลัก เช่นรู้ทางไม้ หรือเสี้ยนไม้ สิ่งเหล่านี้สำคัญที่ช่างแกะสลักจะต้องศึกษาหาความรู้
2. คัดลอกแบบลงพื้นไม้ สำหรับงานที่เป็นรูปเหมือน เพื่อให้ได้แบบ สัดส่วน ขนาดเท่าของของจริง สำหรับช่างที่มีความชำนาญจะนิยมวาดภาพโดยคร่าว ๆ ลงบนไม้ โดยจะมองภาพรวม ๆ
3. การขึ้นรูป เป็นการแกะเอาเนื้อไม้ส่วนที่ไม่ต้องการออกให้ไม้นั้นมีลักษณะรูปร่างใกล้เคียงกับแบบ เพื่อให้เกิดรูปทรงตามต้องการ และดูชิ้นงานจะมีรูปร่างชัดเจนมากขึ้น
4. แกะสลักลวดลายโดยละเอียด จะใช้สิ่วที่มีความคมเป็นเครื่องมือในการแกะสลัก ขั้นตอนนี้จะอาศัยความชำนาญในการแกะสลักลวดลาย ของช่างแต่ละคน ซึ่งจะต้องใช้มือและค้อนไม้ในการตอกการแกะ มีวิธีการแกะสลักที่แปลกออกไปตามความถนัดของแต่ละคนแล้วแต่กรณีไป เพื่อเก็บลายละเอียดให้มากที่สุด